ประวัติ อลิสสัน เบ็คเกอร์
ประวัติ อลิสสัน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูอันดับ 1 ของโลก (Alisson Ramses Becker)
ประวัติ อลิสสัน เบ็คเกอร์
เกิดเมื่อ : 2 ตุลาคม ค.ศ. 1992 หรือ พ.ศ. 2535
สถานที่เกิด : โนวูอัมบูร์กู บราซิล
ส่วนสูง : 1.93 เมตร (193 เซนติเมตร)
อลิสสัน เบ็คเกอร์ หรือที่หลายคนรู้จักเค้าในชื่อ อลิสซอน เบ็คเกอร์ โดยเขานั้นเป็นบุตรชายคนที่สองในตระกูล โชเซ่ กุสตาโว่ ซึ่งคือพ่อนั้นเอง โดยมี มากาลี่ ลิโน่ เดอ ซูซ่า เบ็คเกอร์ ผู้เป็นแม่ และ มูเรียล กุสตาโว่ เบ็คเกอร์ ผู้เป็นพี่ชายของเขา ซึ่งทั้งสองพี่น้องนั้นเป็น ผู้รักษาประตู เช่นเกียวกันอีกด้วย โดยฝั่งของพี่ชายเขานั้นค้าแข้งให้กับ สโมสรฟุตบอลเบเลเนนส์ ในโปรตุเกส
แต่ใรส่วนของน้องชาย หรือ อลิสซอนนั้น เขาได้เริ่มต้นกับสโมสร อินเตอร์นาซิอองนาล ในฐานะเด็กฝึกหัดจากประเทศตัวเอง ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ โดยเขาใช้เวลาในการประสบความสำเร็จ 7 ปี ซึ่งได้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่ และในเกมแรกนี้เขาเปิดตัวได้ค่อนข้างดี และเป็นที่พอใจอย่างมาก โดยทำผลออกมา 1-1 ในศึกของรัฐเกาโช่ ในปี 2013 โดยหลังจากนั้น 6 เดือน เขาได้มีโอกาสเป็นนายทวารอีกครั้ง เมื่อได้เจอกับ โกยาส แต่กลายเป็นว่าผลงานในเกมนี้ไม่ค่อยดีนัก โดยเขานั้นหลุดการเซฟไปถึง 3 ประตู ซึ่งแน่นอนว่าเริ่มต้นนั้นมันไม่มีอะไรง่ายไปหมด เพราะตอนนั้นเขาเป็นเพียงมือที่ 3 ของทีม และเมื่อทีมได้ให้นายด่าน เนลสัน ดีด้า มือประดูระดับเทพ ที่เรียกได้ว่าอยู่ในช่วงสุดท้ายของวงการมือโกลเข้ามาร่วมทีม ทำให้ อลิสสัน เบ็คเกอร์ ได้แสดงความสามารถที่มีอยู่ในตัวเองออกมาจนเป็นที่ยอมรับ และสามารถเป็นมือหนึ่ง ได้สำเร็จ ส่งผลให้ได้เข้าร่วมลงสนามไปกับทีม อินเตอร์นาซิอองนาล ทุกรายการรวมทั้งสิ้น 115 นัด ตลอด 4 ฤดูกาล เรียกได้ว่าลงแต่กับชุดใหญ่ทั้งหมดเลยก็ว่าได้
ตลอดมาจนถึงจุดที่ทำให้ชีวิตในวงการเขาต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเขาได้เล่นให้กับสโมสรชื่อดังอย่าง อาแอส โรม่า แน่นอนเขาอ้ารับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งนี้เอาไว้ โดยอลิสซอน ได้เข้ามาเสริมทัพเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ค.ศ.2016 ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านยูโร ( 250 ล้านบาท ) สัญญา 5 ปี โดยทำให้เขาได้ย้ายไปอยู่ที่กรุงโรมเมื่อเดือน พฤษภาคม
ช่วงแรกนั้นไม่แปลกที่การปรับตัวนั้นยังยากสำหรับเขาและนักเตะทุกคน ซึ่งตัวเขาส่วนใหญ่แล้วจะถูกส่งตัวไปลงเล่นในเกมถ้วยมากกว่าเกมลีกในช่วง 2016-2017 แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเปิดฤดูกาลใหม่ ที่ดูเหมือนจะเป็นการเปิดตัวเปิดใจของเขาด้วย เพราะทางต้นสังกัดเขานั้นได้ปล่อยตัว วอยเจียจ เชสนี่ให้กับสโมสรเก่าของเขา ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เขาได้รับโอกาสลงสนามอย่างเต็มที่ และเปลี่ยนจากเสื้อเบอร์ 19 เป็น เบอร์ 1 อีกด้วย ซึ่งเขาก็ทำโอกาสที่ได้รับมานั้นได้อย่างดี ไม่มีที่ติ
ซึ่งแม้ว่าตัวเขาเองนั้นจะช่วนให้ทีม โรม่า เข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ แต่ก็น่าผิดหวังที่ทีมของเขาพลาดท่าให้กับทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก อย่างหงส์แดง ( ลิเวอร์พูล ) แต่ถึงอย่างนั้น ฝีไม้ลายมือของเขาที่ได้แสดงออกไปนั้น เข้าตาทีมใหญ่ๆ ทั่วยุโรปเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ทำให้ต่อมาจากนั้นไม่นาน ทางสโมสรลิเวอร์พูลก็สามารถคว้าตัวนายทวารนี้ไปเป็น ผู้รักษาประตูลิเวอร์พูล ได้อย่างยาวนาน และได้ทำตกลงสัญญาพร้อมเสนอค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์ ( ราวๆ 2,500 ล้านบาท ) เลยทีเดียว
โดยเมื่อได้ย้ายมาอยู่กับทางลิเวอร์พูลแล้ว เขาก็แสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เขานั้นกลายเป็นผู้รักษาประตูคนแรกของโลก ที่ได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม หรือ “โกลเด้นโกลฟ” ของ 3 รายการใหญ่ ไปได้อย่าง่ายดาย และในปีเดียวกัน ซึ่งไม่นานมานี้เอง เขาก็ได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปอีกด้วย
รวมรางวัลของเขาทั้งหมด
- ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมกัลโช เซเรีย อา ประจำปี : 2017–2018
- หนึ่งในทีมผู้เล่นยอดเยี่ยม กัลโช เซเรีย อา : 2017–2018
- 1 ใน 50 ผู้รักษาประตูดีที่สุดของโลกประจำปี : 2018
- ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมรางวัลลูกโลกทองคำประจำปี : 2018
- รางวัลถุงมือทองคำพรีเมียร์ลีก : 2018-2019
- รางวัลถุงมือทองคำแชมเปี้ยนส์ลีก : 2018-2019
- รางวัลถุงมือทองคำโคปาอเมริกา : 2019
อ่านประวัตินักฟุตบอลคนอื่นๆ :: ประวัตินักฟุตบอล
